พลอยตาเสือ Tiger eye คดไม้สัก

พลอยตาเสือ Tiger’s Eye คดไม้สัก

เรามาทำความรู้จักกับ พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) หรือถ้าเป็นชื่อไทย ๆ หน่อยก็เรียกว่า “คดไม้สัก” กันค่ะ ชื่อของพลอยชนิดนี้อาจจะดูก้าวร้าว แข็ง ๆ เสียหน่อย แต่เชื่อเหลือเกินค่ะ ว่าถ้าคุณได้ทำความรู้จักกับ “พลอยตาเสือ” นี้แล้ว คุณจะต้องชื่นชอบและเห็นถึงคุณประโยชน์ของพลอยตาเสือนี้แน่นอนค่ะ

พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) จัดอยู่ในประเภท Quartz มีสีเหลืองอมน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม หรือแดงน้ำตาล เป็นควอทซ์ที่ทึบแสงถึงกึ่งโปร่งแสง มีโครงสร้างคล้ายเสี้ยนทั้งเม็ด ด้วยคุณลักษณะนี้จึงทำให้พลอยตาเสือมีสีเหลือบแพรวพราว เกิดจากแร่ของควอตซ์เข้าไปแทนที่ ในลักษณะ “ซูโดมอร์ฟ” ใน “แร่โครซิโดไลต์” ซึ่งเป็น “แร่แอสเบสตอส” ที่มีลักษณะเป็นเส้นใยไหม (Silky form) ด้วยลักษณะดังกล่าวจึงทำให้เกิดปรากฏการณ์ลักษณะคล้ายตาเสือที่เป็นคลื่น

พลอยชนิดนี้จึงไม่จำเป็นต้องเจียระไนให้เป็นเหลี่ยมเพชร (Diamond cut) เหมือนอัญมณีชนิดอื่น ๆ แต่อย่างใด ก็มีเสน่ห์ความงดงามอยู่ในตัวเอง ที่สำคัญราคาไม่สูงมาก เมื่อเทียบกับพลอยและอัญมณีชนิดอื่น ๆ อีกด้วยค่ะ
พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) มักนิยมทำเป็นรูปหลังเบี้ยเพื่อขับให้มีลักษณะของตาเสือให้เด่นชัดขึ้น ด้วยคุณลักษณะที่เหมือนกับตาของเสือ ซึ่งเสือเองนั้นมีความสามารถมองเห็นได้ดีในยามค่ำคืน หรือในที่มืด มนุษย์เราจึงเชื่อกันว่า “พลอยตาเสือเป็นตาที่สามแห่งจิตวิญญาณ” ช่วยทำให้เรามองทะลุเห็นถึงแก่นแท้ของสิ่งต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังช่วยเสริมเรื่องความมั่นใจ และความกล้าหาญอีกด้วย

ดังปรากฎในตำนานกรีกโบราณกล่าวขานกันว่า “คลีโอพัตรา เธอา ฟิโลปาตอร์” หรือ พระนางคลีโอพัตรา ราชินีแห่งอียิปต์โบราณ (มกราคม ปีที่ 69 ก่อนคริสตกาล – 30 พฤศจิกายน ปีที่ 30 ก่อนคริสตกาล) ผู้ทรงพระศิริโฉมงดงามและทรงปรีชาสามารถ พระองค์จะทรงมอบพลอยตาเสือนี้ให้กับเหล่าทหารกล้าของพระองค์เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจ และสร้างความฮึกเหิมของเหล่าทหารก่อนที่จะเข้าสู่สมรภูมิเพื่อทำสงคราม

รูปปั้นครึ่งองค์คลีโอพัตราที่ 7 พิพิธภัณฑ์อัลเทส กรุงเบอร์ลิน
รูปปั้นครึ่งองค์คลีโอพัตราที่ 7 พิพิธภัณฑ์อัลเทส กรุงเบอร์ลิน

ลักษณะทางกายภาพ

พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) จัดอยู่ในกลุ่มของ ควอตซ์ (Quartz) ซึ่งเป็นแร่ที่มีความหลากหลายในแง่ของการเกิดและหลากหลายชนิดมากที่สุด พบทั้งในหินอัคนี หินตะกอน และหินแปร การที่มีความแข็งเท่ากับ 7 ไม่มีแนวแตกเรียบ และมีเสถียรภาพทางเคมี ไม่ทำปฏิกิริยากับสารเคมีทั่วไป จึงเป็นแร่ที่ทนทานต่อการผุกร่อน และทนต่อการทำลายทางเคมีมาก ทำให้ควอตซ์ยังคงสภาพอยู่ได้ในรูปของกรวดทรายตามตะกอนทางน้ำและชายทะเล

ควอตซ์ ที่เป็นอัญมณี แบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีผลึกหยาบ คือ โคซลิคริสตัลไลน์ (Coarsely Crystalline) และกลุ่มที่มีผลึกละเอียด คือ คริปโตคริสตัลไลน์ (Crypto crystalline) ทั้ง 2 กลุ่มมีส่วนประกอบทางเคมีและโครงสร้างเหมือนกัน ต่างกันที่การเกิด ขนาดผลึก มลทินที่ทำให้เกิดสี และรูปแบบของสี (pattern) เท่านั้น

ซึ่ง พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) เป็นคริสตัลในกลุ่มควอตซ์ (Quartz) เช่นกัน ที่มีลักษณะสีเหลืองทอง และสีน้ำตาลทองเป็นหลัก ซึ่งเนื้อหินบางส่วนจะมีลักษณะเป็นพื้นสีดำ ทำให้สีเหลืองทองที่ปรากฏโดดเด่นมากยิ่งขึ้นเวลาที่สัมผัสกับแสง

เส้นใยที่ปรากฏในเนื้อพลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) นั้น จะมีลักษณะเป็นริ้วเรียงตัวอัดตัวอัดแน่นกัน เป็นกลุ่มเรียงตัวในแนวเดียวกัน (เหมือนเสี่ยนของไม้สัก) ด้วยความสวยงามตามธรรมชาติจึงนิยมนำมาเป็นเครื่องประดับ สร้อยคอ , แหวน , จี้ และ อื่น ๆ มากมาย

ลักษณะพลอยตาเสือแบบดิบ คุณภาพดีจากแอฟริกาใต้
ลักษณะพลอยตาเสือแบบดิบ คุณภาพดีจากแอฟริกาใต้

ข้อมูลจำเพาะพลอยตาเสือ (Tiger’s Eye)

• จัดอยู่ใน กลุ่มที่มีผลึกหยาบ คือ โคซลิคริสตัลไลน์ (Coarsely Crystalline)
• มีความแข็ง (Hardness) = 6.5-7 โมฮส์ (Mohs)
• ส่วนประกอบทางเคมี (Chemical Formula) = SiO2 , Silicon dioxide
• ดัชนีหักเหของแสง (Refractive Index) = 1.54-1.55
• ความถ่วงจำเพาะ (Specific gravity) = 2.65

แหล่งค้นพบ

แหล่งที่สำคัญ และเป็นแหล่งกำเนิดที่ดีที่สุดคือ แถบประเทศอัฟริกาใต้ แต่พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) ก็ยังสามารถถูกค้นพบได้ในแถบประเทศเอเชียด้วยเช่น ประเทศอินเดีย, เมียนมา และยังถูกค้นพบในบางส่วนของประเทศอเมริกา และในประเทศออสเตรเลียฝั่งตะวันออกอีกด้วยเช่นกันค่ะ

ด้านความเชื่อ

พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) เชื่อว่ามีพลังเรื่องการปกป้องคุ้มครองสูง มีคุณสมบัติในด้านการพัฒนาญาณหยั่งรู้ของเราให้เกิดขึ้นในรูปของการมองเห็น หินชนิดนี้จะทำหน้าที่ช่วยเปิดดวงตาที่สาม นอกจากนี้พลอยตาเสือยังช่วยให้ญาณทัศนะของเราดีขึ้น เหมาะกับการใช้นั่งสมาธิ เพ่งกสิน และมีพลังในด้านการบำบัดจิตใจสูง

อีกทั้งยังเชื่อว่า พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) เป็นศูนย์รวมแห่งพลังความคิด และพลังของความคิดสร้างสรรค์จินตนาการ คอยช่วยกระตุ้นพลังชีวิตในด้านบวก และกระตุ้นพลังความคิดให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ได้ดี นอกจากนี้คนโบราณยังเชื่อว่าหินชนิดนี้จะส่งผลดีต่อจิตใต้สำนึก ช่วยให้เราสามารถค้นหาสิ่งดี ๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายในตัวเราได้อีกด้วยค่ะ

พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) เสริมมงคล

• พลอยตาเสือ (Tiger Eye) เชื่อว่า มีพลังเสียงสะท้อนที่สูงจึงช่วยดึงดูดพลังงานเข้าสู่ฐานโลก ซึ่งเหมาะสำหรับรวมรวมพลังงาน ตามความเชื่อกล่าวว่าจะทำให้มองเห็นสิ่งซ้อนเร้นรูปเบบของวัตถุต่าง ๆ ในเวลาที่เรามีพลังความตั้งใจ กำหนดจิตแน่วแน่
• พลอยตาเสือ (Tiger Eye) ทำให้ผู้สวมใส่ และครอบครองมีความหนักแน่น ช่วยในเรื่องการตัดสินใจเรื่องสำคัญ ๆ ในทุกเรื่องได้ดียิ่งขึ้น
• พลอยตาเสือ (Tiger Eye) เป็นหินที่เหมาะสำหรับใช้ในเหตุการณ์ที่ต้องมีการแข่งขัน แย่งชิง ช่วยทำให้ผู้สวมใส่มีความมั่นใจมากขึ้น มุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะ จึงทำให้ประสพความสำเร็จตามมา

ด้านการบำบัด

พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) จะช่วยบำบัดและบรรเทาอาการปวดศีรษะอันเนื่องมาจากความเครียด ปวดท้อง หรือมีปัญหาระบบลำไส้ ซึ่งอาจจะเกิดจากความเครียด สวมใส่สร้อยคอที่ทำด้วยพลอยตาเสือ (Tiger Eye) แล้วจะสามารถบรรเทาอาการปวดให้คลายลงได้
พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) ยังเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย เป็นศูนย์รวมแห่งพลังความคิดและจินตนาการ เหมาะสำหรับบำบัดคนที่มีจิตใจเลื่อนลอย ไร้แก่นสาร หินชนิดนี้จะรวบรวมพลังที่ดี และมั่นคงเข้ามาสู่ตัวเราได้ เหมือนเป็นการโฟกัสจุดให้กับการกำหนดเป้าหมายให้กับชีวิต
ในยุคนี้ที่หลายคนทำงานหนักโดยไม่มีเป้าหมายชีวิต หรือไม่มีแก่นสารที่แท้จริงว่าเราทำไปเพื่ออะไร? หินชนิดนี้ก็จะช่วยให้เราค้นหาจุดสมดุลย์ของชีวิตตัวเองได้ และมีความหนักแน่น และมั่นคงทางอารมณ์มากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ

คำแนะนำ

ให้นำพลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) วางไว้บนสะดือ หรือจักรกลางลำตัว ซึ่งเป็นจักระที่ 3 (ดอกบัว 8 กลีบ) ใน 7 จักระของมนุษย์ที่มีชื่อว่า “มณีปุระ” เป็นจักระแห่งศูนย์กลางของการหยั่งรู้ ณ จุดนี้จะเป็นศูนย์กลางของร่างกายของมนุษย์ คอยควบคุมระบบการย่อยอาหารและการขับถ่ายของเสีย อีกทั้งยังใช้สำหรับการบำบัดรักษากระเพาะอาหาร, ลำไส้ต่าง ๆ และอวัยวะภายในที่เกี่ยวระบบย่อยอาหารด้วย
พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) ช่วยทำให้พลังงานต่าง ๆ ไหลเวียนเข้าสู่ร่างกายได้ดีมีความสมดุลย์ขึ้น และยังช่วยดึงดูดพลังดี ๆ ของโลกมาสู่ตัวเรา
ควรสวมใส่เป็นพลอยตาเสือ เครื่องประดับ หรือพกติดตัวไว้ เพื่อเสริมสร้างพลังในการปกป้องและคุ้มครอง

ข้อควรระวัง

ตอนเลือกซื้อ พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) ถ้าหินไม่ส่องแสงแวววาวในความมืดแปลว่า “ไม่ใช่พลอยตาเสือของจริง” หากผู้สวมใส่รู้สึกว่าพลอยตาเสือที่สวมใส่เกิดร้อนวูบขึ้นมา ก็แสดงว่าหินกำลังเตือนให้คุณหยุดนิ่งสงบจิตสงบใจ และควรหาเวลานั่งสมาธิเพื่อกำหนดจิตให้นิ่ง จะทำให้เกิดปัญญาญาณในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างค่ะ กับเรื่องราวของ พลอยตาเสือ (Tiger’s Eye) หรือ คดไม้สัก แม้ชื่อจะดูดุดันไปเสียหน่อย แต่คุณสมบัติของพลอยชนิดนี้เน้นทางด้านการคุ้มภ้ย และสร้างญาณทัศนะอันเฉียบคมให้กับเราได้ รู้อย่างนี้แล้วคงต้องรีบหามาไว้ในครอบครองกันนะคะ


สนใจหินมงคลสำหรับเสริมดวงชะตา คลิกได้ ⇒ ที่นี่


อ.ณิชารัศมิ์ หินเดินดาว

ผู้คิดค้น วิชาหินเดินดาว ศาสตร์พยากรณ์ 12 พลังหิน

Facebook: หินเดินดาวณิชารัศมิ์โหราศาสตร์

Ad Nicharas on HDTV