หินออบซิเดียน (Obsidian) หินแห่งความจริง

ตำนาน ออบซิเดียน (Obsidian)

หินออบซิเดียน (Obsidian) มีชื่อเรียกต่างประเทศ ๆ มากมายตามลักษณะ องค์ประกอบของหิน ความเชื่อ เช่น ออบซิเดียนที่พบในรัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา เรามักจะเรียกกันว่า “อาปาเช่ เทียร์” (Apache Tears) เหตุที่มีการเรียกกันเช่นนี้ ก็สืบเนื่องมาจากตำนานโบราณที่เล่าขานกันว่า

ณ ทวีปอเมริกาเหนือ ในสมัยที่ชาวยุโรปเข้ามาจับจองพื้นที่บริเวณรัฐอริโซน่าในปัจจุบัน จึงเกิดการต่อสู้กันกับชาวพื้นเมือง หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า “ชาวอินเดียนแดง” ในการสู้รบครั้งหนึ่ง นักรบอินเดียนแดงเผ่าอาปาเช่ ได้ถูกกองกำลังทหารของทางฝั่งยุโรปสังหารจนสิ้น เมื่อหญิงคนรักของนักรบเหล่านั้นทราบข่าว ก็พากันเดินทางออกตามหาศพจนทั่ว แต่ก็ไม่พบแต่ประการใด

ออกตามค้นหาอยู่นานก็ไม่พบ เมื่อเป็นเช่นนั้น พวกเธอจึงรู้สึกเสียใจเป็นอันมาก ที่ไม่สามารถค้นหาร่างของชายคนรักของตน และทั้งหมดก็ได้นั่งร้องไห้อยู่บนหน้าผา จนน้ำตาของพวกเธอได้กลายเป็นหินออบซิเดียนขึ้นมานั่นเอง และนั่นก็เป็นตำนานที่เล่าขานกันสืบต่อมา

การกำเนิด ออบซิเดียน (Obsidian)

หินออบซิเดียน (Obsidian) มีต้นกำเนิดมาจากการระเบิดของภูเขาไฟอย่างรุนแรง สาเหตุที่เกิดการระเบิดที่รุนแรงนั้น เนื่องมาจากหินลาวาในชั้นใต้ดินมีซิลิกาในสัดส่วนที่สูงมาก จึงทำให้หินลาวานั้นมีความหนืดสูง ทำให้แก๊สภายในไม่สามารถระบายออกมาได้ ดังนั้นจึงทำให้เกิดการอัดตัวของแก๊สภายในสะสมมากขึ้น จนกลายเป็นสาเหตุของการระเบิดของภูเขาไฟที่รุนแรง ทำให้ลาวาพุ่งขึ้นในอากาศ และแข็งตัวลงอย่างรวดเร็วผลึกแร่ในตัวหินจึงไม่มีเวลาตกผลึก

“หินออบซิเดียน ก็คือ หินอัคนี”

ที่เกิดขึ้นจากภูเขาไฟ ออบซิเดียนมีสีดำและมีความแวววาว ประกอบด้วยซิลิกาไดออกไซด์ ไทเทเนียมไดออกไซด์ อะลูมิเนียมและเหล็กออกไซด์ หินออบซิเดียนจึงเป็นหินที่มีผลึกเล็กมาก ๆ หรือแทบไม่มีผลึกเลยก็ว่าได้ จึงทำให้เกิดหินที่มีลักษณะคล้ายแก้ว มีความแวววาว

หินออบซิเดียนจึงถูกเรียกอีกชื่อว่า “แกรนิตเนื้อแก้ว” จากลักษณะหินเป็นสีดำ และเนื้อหินละเอียดสูงจนเกิดความเงางาม

ลักษณะทางกายภาพ ออบซิเดียน (Obsidian)

มีความแข็ง (Hardness) = 5-5.5 โมฮส์ (Mohs)
ส่วนประกอบทางเคมี (Chemical Formula) = 70-75% SiO2,plus MgO, Fe3O4
ดัชนีหักเหของแสง (Refractive Index) = 1.489
ความถ่วงจำเพาะ (Specific gravity) = 2.6

ลักษณะหินออบซิเดียน จึงมีสีดำ เนื้อหินละเอียด มีความแข็ง ลักษณะของขอบมีความคม ด้วยเหตุนี้ ในยุคหิน มนุษย์จึงมีการนำหินออบซิเดียนมาทำเป็นใบหอก ในหินออบซิเดียนที่สัมผัสกับน้ำก็จะทำให้เกิดผลึกเส้นใยสีขาว กระจายคล้ายเกล็ดหิมะ ซึ่งในประเทศไทยนั้นแทบไม่มีการพบหินชนิดนี้เลย

ประเภทของ ออบซิเดียน (Obsidian)

1. Black Obsidian
2. Snowflake Obsidian
3. Apache Tear

ความเชื่อ ออบซิเดียน (Obsidian)

เชื่อกันว่า ออบซิเดียน จะช่วยขับไล่โชคชะตาที่เลวร้าย หินชนิดนี้พบมากในบริเวณรัฐอริโซนา ของประเทศสหรัฐอเมริกา ในสมัยก่อนจะได้รับความนิยมมากในชนเผ่าอินเดียนแดง ด้วยเชื่อกันว่า

“หินออบซิเดียนเป็นดั่งกระจกเงา สะท้อนสิ่งไม่ดีไม่งาม”

อีกทั้งยังสะท้อนสิ่งที่บกพร่องของจิตใจให้ออกไป เรียกได้ว่าหินชนิดนี้ สามารถหักเหพลังของโชคชะตาที่เลวร้าย และสิ่งชั่วร้ายต่าง ๆ ให้เบี่ยงเบนออกไปจากชีวิตของผู้สวมใส่ได้

ในด้านของพลังธรรมชาติ ออบซิเดียนได้ชื่อว่าเป็น “หินแห่งความจริง” เชื่อว่าพลังของหินออบซีเดียนนั้นจะช่วยลดจุดบกพร่องในชีวิตของผู้ที่สวมใส่ แล้วยังช่วยให้ผู้สวมใส่ไม่จมอยู่ในกองทุกข์ แล้วหันมามองโลกในแง่ดีขึ้น

อีกทั้งยังก่อให้เกิดความมั่นคงภายในจิตใจ ขจัดความหวาดกลัวให้หมดไป อีกทั้งยังช่วยสร้างมิตรสัมพันธ์ที่ดีกับบริวาร และคนรอบข้างได้ดีอีกด้วย

คนโบราณ โดยเฉพาะชนเผ่าอินเดียนแดง เชื่อกันว่าออบซิเดียนจะช่วยปลุกจิตวิญญาณนักรบที่มีอยู่ในตัวเรา และพร้อมกับชักนำแต่สิ่งดีมาให้กับชีวิต

ความเชื่อในด้านหินบำบัด ก็เชื่อว่าหินออบซีเดียน สามารถช่วยรักษาอาการที่เกี่ยวข้องกับดวงตาของผู้สวมใส่ได้ เช่นเดียวกันกับ หินพลอยตาเสือ (อ่านเพิ่มเติม…คลิกที่นี่)

คราวนี้ทุกคนก็ได้รู้จักกับตำนาน ลักษณะ และความมหัศจรรย์ ของหินออบซิเดียน (Obsidian) กันไปแล้ว อาจารย์ขอบอกว่าเป็นหินที่ดีและราคาไม่สูง สีดำเงาแบบนี้คุณผู้ชายสามารถหามาสวมใส่ได้แบบไม่เคอะเขินมากนัก ส่วนคุณผู้หญิงก็จะดูทะมัดทะแมง และเข้มแข็งมากยิ่งขึ้น ก็ขอจบเรื่องของหินออบซิเดียนไว้เพียงเท่านี้